ไซตะมะเคยเป็นศูนย์กลางการขนส่งและจุดหยุดพักที่สำคัญระหว่างทางไปนิกโกในช่วงยุคเอโดะ ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นพื้นที่เมืองที่มีผู้คนสัญจรไปมามากมาย และยังคงหลงเหลือบรรยากาศแบบยุคเอโดะของเมืองประวัติศาสตร์ จังหวัดไซตามะนี้ยังมีโอมิยะเป็นเมืองศูนย์กลาง ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวประมาณเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น จึงยังมีทั้งความทันสมัยและกลิ่นอายของชนบท รวมไปถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการอยู่ในเมืองที่มีความสงบไม่แออัดวุ่นวาย เมื่อรวมกับการคมนาคมที่แสนสะดวกเมืองนี้จึงเป็นจุดหมายที่เหมาะ สำหรับเป็น one day trip จากโตเกียว
มีชื่อเสียงมากๆเรื่องเป็นจุดชมซากุระช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยต้นซากุระจะตั้งอยู่เรียงรายเป็นระยะทางเดินยาวๆ มีทุ่งดอกนาโนะฮานะ เหลืองอ่อนที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นทุ่งกว้างๆสีเหลืองแน่นๆบริเวณส่วนตรงกลาง มองแล้วเป็นสดชื่นและพาให้ใจเบิกบานแบบสุดๆ
เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่เชื่อกันว่าถูกก่อตั้งในรัชสมัยจักรพรรดิโคโชในปี 473 ก่อนคริสตกาล ปัจจุบันนับว่ามีอายุกว่า 2,400 ปีแล้ว และตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ศาลเจ้าฮิกาวะเป็นศาลเจ้าที่บุคคลสำคัญนิยมมาขอพร
ตั้งอยู่ภายในบริเวณแม้น้ำอาระคาว่า เป็นหนึ่งในสามไฮไลท์ของจุดชมเสาน้ำแข็งของเมืองจิจิบุ ซึ่งนับได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ปังมากในฤดูหนาวแบบมาไซตามะ
สุสานร้อยถ้ำโยชิมิเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มของสุสานโคะฟุน สุสานแบบโบราณของญี่ปุ่นที่ขุดเข้าไปในถ้ำมนุษย์สร้าง แม้ว่าชื่อจะบอกว่า “สุสานร้อยถ้ำโยชิมิ” แต่ที่จริงแล้วถ้ำที่พบในนี้มีมากถึง 219 ถ้ำทีเดียว โดยถ้ำแห่งนี้มีมาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 6 ทีเดียว
ใครเป็นแฟนคลับ มูมิน ตัวการ์ตูนสุดมุ้งมิ้งจากประเทศฟินแลนด์ สามารถมาตามรอยเที่ยวบ้านมูมิน หรือ Moomin Valley Parkได้ที่ไซตามะเลย ภายในนอกจากจะมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะมากมายแล้ว ยังมีของที่ระลึกให้กระเป๋าฉีกกันอีกเพียบ
เป็นที่เที่ยวซึ่งจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์รถไฟของญี่ปุ่นผ่านการชมนิทรรศการต่างๆภายในพิพิธภัณฑ์มีกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น เครื่องจำลองการขับรถไฟชินคันเซ็นและรถราง ทุกคนทั้งเด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่สามารถสนุกกันได้ตลอดทั้งวันเลย
หอระฆังโทคิโนะคาเนะเป็นหอที่เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ. 1627 – 1634 และถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่คอยบอก “เวลา” ทำให้หอระฆังถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการใช้ชีวิตของผู้คนที่นี่
สวนฮิตสึจิยามะเป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังในฤดูใบไม้ผลิของเมืองจิจิบุก็ว่าได้ เพราะในฤดูใบไม้ผลิช่วงกลางเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี เนินเขาในสวนจะถูกปกคลุมด้วยดอกชิบะซากุระ สีชมพูเข้มกว่า 400,000 ดอก
ศาลเจ้านี้มีประวัติยาวนานกว่า 2,100 ปี ด้วยความที่สถาปัตยกรรมการสร้างอันแสนจะวิจิตรบรรจง ซึ่งศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานก็ไม่ใช่ใครอื่นหากเป็นคนเดียวกับที่สร้างศาลเจ้า Toshogu ที่มีชื่อเสียงนั่นเอง
เป็นที่เที่ยวซึ่งสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีอันสวยงามในฤดูใบไม้ร่วง ในบริเวณวัดมีป่าขนาด 43 เฮกตาร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติแห่งชาติ สามารถเดินเล่นเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ได้