บริษัท ดีแพลนทัวร์ จำกัด
083-751-6663 088-646-6637    096-926-1949    096-896-9386 dplantour@gmail.com   @dplantour

ชวนรู้จัก 7เทพเจ้าเเห่งโชคลาภของชาวญี่ปุ่น

ชวนรู้จัก 7เทพเจ้าเเห่งโชคลาภของชาวญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นใช่ว่าจะมีแต่พระพุทธรูปที่คนญี่ปุ่นเค้านับถือกัน ยังมีเทพเจ้าอีกเจ็ดองค์ ที่เค้าเชื่อกันว่าเป็นเทพที่สามารถนำโชคนำลาภมาให้ทุกคนอีกด้วย เคยเห็นภาพวาดเทพหลายๆ องค์ยืนยิ้มอยู่บน เรือสมบัติ (Takarabune,宝船) กันบ้างมั้ย ? พวกเค้านั่นล่ะคือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้ง 7 หรือคนญี่ปุ่นเค้าเรียก ชิจิ ฟุคุจิน  (Shichi Fukujin,七福神 ) ท่านเทพทั้งเจ็ดมักจะมีบทบาทตามสื่อโฆษณา ตามหนังสืออยู่บ่อยๆ ปัจจุบันเราจะเห็นเครื่องรางเกี่ยวกับท่านทั้งเจ็ดมีจำหน่ายตามวัดหรือศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย มาทำความรู้จักกับท่านเทพทั้งเจ็ดกันดีกว่า

เทพเจ้าองค์ที่ 1 คือ ท่าน เอบิซุ  (Ebisu, えびす) เทพเจ้าแห่งท้องทะเล การประมง และการค้า ท่านเอบิซุเป็นเทพเจ้าองค์เดียวที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น มีลักษณะดังนี้ มือขวาจะถือเบ็ดตกปลา มือซ้ายถือปลากระพงไว้ ตามบริษัทหรือร้านเกี่ยวกับการประมง อาหารทะเลต่างๆ  มักนำรูปปั้นมาติดตั้งไว้เพื่อนำโชคลาภมาให้กับธุรกิจของตนเอง

ท่านอิบิสุนี้เป็นที่บูชากันมากในแถบโอซากาค่ะ เนื่องจากเป็นแหล่งอุตสาหกรรมประมงของญี่ปุ่นมาแต่โบราณ ท่านถึงได้ทรงคันเบ็ดและปรากฏพร้อมกับปลากระพงยักษ์ (Tai : 鯛) ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการประมงและเป็นเทพที่นิยมบูชากันในตลาดปลา ชาวประมงญี่ปุ่นเมื่อจะออกทะเลแต่ละครั้งมักบูชาเทพองค์นี้เสมอ ตำนานการกำเนิดของท่านนั้นแต่ละที่ก็เขียนไว้ไม่เหมือนกัน บ้างก็ว่าเป็นโอรสของเทพไดโกกุ แต่ที่แน่ ๆ ท่านเป็นเทพเจ้าญี่ปุ่นดั้งเดิมแค่องค์เดียวในบรรดาเทพเจ้าทั้ง 7

 

เทพเจ้าองค์ที่ 2 คือ  ท่าน ไดโกะคุเตน (Daikokuten, だいこくてん)เทพเจ้าแห่งการเกษตร ความอุดมสมบูรณ์ และความร่ำรวย เป็นเทพที่ถือกำเนิดจากประเทศอินเดีย ก็คือ พระศิวะ นั่นเอง มีลักษณะดังนี้ มือขวามักถือค้อน และมือซ้ายแบกถุงข้าวสาร ใบหน้ายิ้มแย้ม และมีเจ้าหนูตัวเล็กๆ คอยติดตามเสมอ ตามร้านขายของต่างๆ มักจะมีท่านประดับไว้เพื่อนำโชคลาภและความเป็นสิริมงคลมาสู่ร้านของตนเองอีกด้วย

เป็นเทพที่ถือกำเนิดจากประเทศอินเดีย ก็คือ พระศิวะ นั่นเอง เป็นลักษณะชายอ้วนลงพุงใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสสวมหมวกแบน ๆ พระหัตถ์ถือค้อนตะลุมพุกและพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งจะแบกถุงใส่สมบัติใบใหญ่ ว่ากันว่าถ้าท่านสั่นตะลุมพุกเมื่อไหร่เงินทองไหลมาเทมา มีผู้วิเคราะห์ว่าเดิมท่านน่าจะเป็นพระโพธิสัตว์ในศาสนาพุทธมหายาน คือ พระมหากาล แต่ท่านดูจะใจดีกว่าพระมหากาลมาก ท่านก็เป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งและร่ำรวย บางครั้งปรากฎรูปเทพไดโกกุยืนอยู่บนฟ่อนข้าวที่กำลังถูกหนูแทะก็มี แต่ท่านประทับอยู่ในอาการที่มีความสุขไม่เดือดร้อน เพราะความมั่งคั่งร่ำรวยนั่นเองค่ะ จึงทำให้หลาย ๆ บ้านเอารูปท่านไปติดไว้ในครัวเพื่อให้กำราบหนู 

 

เทพเจ้าองค์ที่ 3 คือ  ท่าน บิชะมงเตน (Bishamonten, びしゃもんてん) เทพเจ้าแห่งนักรบ ขุมทรัพย์ และความยุติธรรม เป็นเทพเจ้าที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย ท่านคือ ท้าวกุเวร ของศาสนาฮินดูนั่นเอง มีลักษณะดังนี้ มือข้างขวาจะถือศาสตราวุธและมือซ้ายจะถือเจดีย์อันเล็กๆ ในญี่ปุ่นเชื่อว่าท่านเป็นเทพที่ปกปักรักษาทรัพย์สมบัติในบ้านเรือนและปกป้องให้พ้นจากสิ่งอัปมงคลต่างๆ

เชื่อกันว่าเทพองค์นี้เดิมก็คือท้าวเวสสุวัณของไทยค่ะ พระองค์ทรงเป็นโลกบาลผู้ครองทิศเหนือ รวมทั้งเป็นเทพผู้คุ้มกฎ ปกป้องผู้บูชาจากอันตรายและภูตผีปีศาจ นอกจากนี้ท่านยังเป็นเทพแห่งทรัพย์สมบัติอีกด้วย ว่ากันว่าท่านเป็นเทพที่มั่งคั่งร่ำรวยยิ่งนัก ท่านสามารถประทานโชคลาภ 10 ประการ และทรัพย์สินเงินทองของมีค่าตามแต่ผู้บูชาจะอธิษฐานได้ด้วย ในอีกด้านหนึ่ง บิชามงก็เป็นเทพแห่งสงคราม ดังนั้นทิพยรูปของพระองค์จะสวมเสื้อเกราะแบบนักรบมี พระพักตร์สีฟ้าและถืออาวุธต่างๆ แต่ที่เห็นชัดคือหอกและเจดีย์ เทพบิชามงเป็นตัวแทนของคุณงามความดีและความสงบสุขด้วย

 

เทพเจ้าองค์ที่ 4 คือ  ท่าน เบ็นเท็น (Benten, べんてん) หรือ เบนไซเต เทพเจ้าแห่งความงาม ศิลปะ ดนตรี และภูมิปัญญา เป็นเทพเจ้าที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย ท่านคือ พระสุรัสวดี เทพีผู้งดงามในศาสนาฮินดู นั่นเอง ในเจ็ดเทพท่านเป็นเทพเจ้าองค์เดียวที่เป็นผู้หญิง มีลักษณะดังนี้ มักจะสวมชุดนางฟ้าและถือบิวะไปด้วย ผู้ที่มีอาชีพและประกอบการในด้านวิทยการศิลปะในด้านต่างๆ มักจะมีท่านประดับหรือพกเครื่องรางติดตัวไว้เพื่อนำพาความสำเร็จมาสู่ตนเอง

ท่าเบนเท็น หรือ เบนไซเตนก็คือ พระแม่สรัสวตีของฮินดูนั่งเอง แต่ท่านเข้าไปถึงญี่ปุ่นโดยผ่านศาสนาพุทธนิกายมหายานในช่วงหลังพุทธศตวรรษ ที่ 13 รูปลักษณ์ของท่านจะปรากฎออกมาเป็นสตรีที่ถือบิวะ (พิณของญี่ปุ่น) และมีหน้าที่รักษาพระไตรปิฎกรวมทั้งปกป้องผู้ที่ครอบครองพระไตรปิฎก แต่ในเวลาต่อมานิกายชินกอนและเทนไดได้เปลี่ยนแปลงคติความเชื่อเกี่ยวกับเบน เท็น โดยให้เป็นเทพผู้ครองน้ำร่วมกับเทพแห่งผืนดินริมฝั่งแม่น้ำ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนญี่ปุ่นนับถือพระนางเป็นเทพแห่งความอุดม สมบูรณ์และโชคลาภ เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นผืนดินริมน้ำและของเหลวต่างๆ ล้วนแต่เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ทั้งสิ้น บุคคลที่ใช้ศิลปะการแสดงเป็นอาชีพเลี้ยงตัวอย่างเกอิชานับถือท่านอย่างมาก เทวีเบนเท็นในญี่ปุ่นเลยเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า เป็นเทพคุ้มครองพวกเกอิชาด้วย เทวรูปเทพเบนเท็นในศาลเจ้าหลายๆแห่งมักปรากฏรูปงูอยู่ด้วย เพราะท่านมีความเกี่ยวข้องกับบาดาล จึงนับถือกันว่าพระนางสามารถควบคุมมังกรและอสรพิษต่าง ๆ ได้ รวมทั้งคุ้มครองผู้เดินทางยามวิกาลจากงูได้ด้วย ในทางเทววิทยานั้นว่ากันว่า งูในสมัยโบราณคือสัญลักษณ์ของดินกับน้ำซึ่งเกี่ยวข้องกับความอุดมสมบูรณ์ด้วย

เทพเจ้าองค์ที่ 5 คือ ท่าน ฟุคุโระคุจู  (Fukurokuju, ふくろくじゅ) เทพเจ้าแห่งความสุข ความมั่งคั่ง  และอายุยืนยาว ท่านเทพอาวุธโส หนวดยาว หน้าผากสูง หน้าตาใจดี ท่านนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน เป็นหนึ่งเทพมงคล 3 ประการของจีน ฮก ลก ซิ่ว นั่นเอง โดย ท่านเทพองค์นี้ก็คือ ท่าน ซิ่ว มีลักษณะดังนี้ มือขวามักถือไม้เท้าและมีบัญชีอายุขัยมนุษย์ห้อยอยู่ด้วย มีนกกระเรียนและเต่าอยู่เคียงข้างเสมอ ท่านมีพาหนะเป็นกวางดำโบราณสองพันปี สัตว์ทั้งสามคือสัญลักษณ์ของการมีอายุยั่งยืนนั่นเอง

ท่านได้รับการนับถือในฐานะเทพผู้ประทานพรให้มีอายุยืนยาว นอกจากนี้ท่านยังสามารถบันดาลให้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองและทำให้ข้าวปลา ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ได้อีกด้วย เทววิทยาได้อธิบายไว้ว่า เทพองค์นี้เกิดจากสภาวะ 3 ประการคือ Fuku (เทพเจ้าแห่งความสุข), Roku (เทพเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติ), Ju (เทพเจ้าแห่งความมีอายุยืน) เทพองค์นี้มักปรากฏเป็นลักษณะของผู้คงแก่เรียนมีความเคร่งขรึมสำรวม และจุดเด่นอยู่ที่ศีรษะที่สูงยาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอายุยืน,ความฉลาด และประสบการณ์ มักมีสัตว์มงคล เช่น นกกระเรียน, กวาง หรือเต่าอยู่ใกล้ ๆ ด้วย สัตว์เหล่านี้ทางศาสตร์ของจีนล้วนแต่เป็นตัวแทนของความมีอายุยืนทั้งสิ้น ดังนั้น เทพองค์นี้ก็คือ เทพ “ซิ่ว” ที่อยู่ในชุด “ฮก ลก ซิ่ว” ของจีน ว่ากันว่าพระองค์ทรงเป็นพระบิดาของเทพจูโรจิน ซึ่งเป็นเทพแห่งอายุยืนอีกองค์หนึ่งด้วย

เทพเจ้าองค์ที่ 6 คือ ท่าน จูโรจิน (Jurojin,じゅろうじん) เทพเจ้าแห่งความอายุยืน เทพอาวุธโส มีหนวดเครา สวมหมวก ท่านนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน  มีลักษณะดังนี้ มือขวาถือไม้เท้า บางทีก็มีบัญชีห้อยอยู่ด้วย มือซ้ายถือลูกท้อหรือพัด และมีกวางโบราณในตำนานอยู่เคียงข้าง ในบางตำนานเชื่อว่าท่านคืออีกร่างของท่าน ฟุคุโระคุจู  บางทีอาจจะจำสับสนกันได้ แต่ท่านทั้งสองคือสัญลักษณ์ของการมีชีวิตยืนยาวเหมือนกัน

เทพเจ้าจูโรจินท่านเป็นลูกของเทพฟุกุโรคุจู โดยมีเทวลักษณะเป็นชายร่างเล็กเตี้ย แต่ศีรษะใหญ่ และมักถือไม้เท้ายาวที่มีสมุดเล่มเล็กๆห้อยไว้ด้วย สมุดเล่มนี้ท่านเอาไว้คอยจดอายุไขของบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ข้างกายท่านก็จะมีกวางอยู่ด้วย ถ้าเป็นรูปวาดสมัยเก่า ๆ ก็มักวาดให้กวางนี้เป็นสีดำ เพราะเชื่อกันว่ากวางจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินก็ต่อเมื่ออายุครบ 1000 ปี กลายเป็นสีขาวเมื่ออายุ 1500 ปี และกลับมาเป็นสีดำสนิทเมื่ออายุครบ 2000 ปี นอกจากนี้ท่านยังโปรดสุรามาก โดยเฉพาะเหล้าสาเก แต่ท่านมีข้อแตกต่างจากคนอื่นคือดื่มเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเมา จึงเป็นที่นับถือของคนที่มีอาชีพต้มเหล้า ผลิตเหล้า เวลาจัดของเซ่นไหว้ท่านก็ต้องมีเหล้าสาเกรวมอยู่ด้วย

เทพเจ้าองค์ที่ 7 คือ  ท่าน โฮเทอิ (Hotei, ほてい) เทพเจ้าแห่งความสุข  สุขภาพดีอุดมสมบูรณ์ และความพอเพียง เทพร่างอ้วน พุงใหญ่ ใบหน้ายิ้มแย้มหรือหัวเหราะ ใจดี ท่านนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ก็คือ พระโพธิสัตว์ พระศรีอริยเมตไตรย  นั่นเอง มีลักษณะดังนี้ มือขวาถือพัด มือซ้ายแบกถุงใบใหญ่พาดบ่าเอาไว้ ใส่ชุดเปิดพุงด้านหน้าครึ่งตัวอีกด้วย กิจการโรงแรม ร้านอาหารภัตตาคารต่างๆ มักจะมีท่านรูปปั้นท่านไว้เพื่อเป็นสิริมงคล และความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย

เทพโฮเตอิเป็นเทพเจ้าความสุขและความรู้จักพอ นอกจากนั้นยังเชื่อว่าช่วยให้ทำมาค้าขายดี และมักตั้งเอาไว้ที่บริเวณทางเข้าร้านค้า เทวลักษณะของเทพองค์นี้ คือรูปร่างอ้วน แก้มยุ้ย ใบหน้ายิ้มแป้นมือถือพัด มักจะสะพายย่ามใบใหญ่ไว้ ย่ามใบนี้เล่ากันว่าใส่ของไปมากแค่ไหนก็ไม่มีวันเต็ม เทววิทยาญี่ปุ่นยอมรับว่าเทพองค์นี้มาจากจีนอย่างแน่นอน ว่ากันว่าท่านเคยเป็นมนุษย์ธรรมดา เกิดในสมัยราชวงศ์เหลียงของจีน ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านเป็นบุคคลที่มีความรอบรู้เชี่ยวชาญในพุทธศาสนามากและก็มีวัตรปฏิบัติของ ผู้ละวางไม่ยึดติดใด ๆ ไม่มีแม้แต่บ้าน ค่ำไหนนอนนั่น บางครั้งก็นอนในทุ่งโล่งได้อย่างไม่สะทกสะท้านแม้ว่าจะมีหิมะลงอย่างหนัก การที่ท่านแต่งกายคล้ายพระสังกัจจายน์ของจีนและสะพายย่ามใบใหญ่ รวมทั้งอยู่ในอาการยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ก็เลยมีผู้เสนอว่าเทพองค์นี้อาจเป็นคติความเชื่อเดียวกับพระศรีอาริยเมตไตร ของจีนก็เป็นได้ แต่เมื่อมาถึงญี่ปุ่นก็กลายเป็นเทพที่ชอบเหล้าสาเก เพราะคนญี่ปุ่นชอบเหล้าสาเกและเทพแห่งโชคลาภของญี่ปุ่นเกิดจากการเลียนแบบ คณะโป๊ยเซียนของจีน จึงได้รับแรงบันดาลใจจากนิทานพื้นบ้านที่มักกล่าวถึงโป๊ยเซียนชอบร่ำสุรา ร่วมกัน