บริษัท ดีแพลนทัวร์ จำกัด
083-751-6663 088-646-6637    096-926-1949    096-896-9386 dplantour@gmail.com   @dplantour

คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ยามานาชิ

คาวากุจิโกะ
Kawaguchiko

คาวากุจิโกะ (河口湖) คือทะเลสาบที่ตั้งอยู่บริเวณทางเหนือของภูเขาไฟฟูจิ อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นในสายตาของนานาประเทศทั่วโลก การันตีความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสายในทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี โดยคาวากุจิโกะนั้นเป็นหนึ่งในห้าทะเลสาบที่อยู่บริเวณฐานของภูเขาไฟฟูจิ เพราะอยู่ในตำแหน่งความสูงที่ต่ำสุดในบรรดาทะเลสาบทั้งห้า จึงทำให้ภาพสะท้อนของภูเขาไฟฟูจิที่ปรากฎบนผิวน้ำนั้นสวยงามลงตัวยิ่งกว่าทะเลสาบไหนๆ และเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า “ภูเขาไฟฟูจิกลับหัว” ที่ตั้งของคาวากุจิโกะนั้นห่างจากโตเกียวเพียง 2 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีออนเซ็นวิวสวยและโรงแรมบริการชั้นเลิศมากมาย จึงทำให้ทะเลสาบแห่งนี้เป็นจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยม ทั้งสำหรับผู้ที่มาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ และผู้ที่ประสงค์จะมาพักผ่อนหย่อนใจเป็นเวลานานอีกด้วย

ในปี 2013 คาวากุจิโกะได้รับการจดทะเบียนให้เป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับภูเขาไฟฟูจิ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมถึงขนาดที่ว่า ในปี 2017 มีการบันทึกว่าได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวไปแล้วกว่า 4.5 ล้านคนเลยทีเดียว นอกจากออนเซ็นน้ำพุร้อนบรรยากาศดีแล้ว บริเวณโดยรอบก็ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนโออิชิ (大石公園, Oishi Park) ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์งดงามจนแทบลืมหายใจของทะเลสาบและภูเขาไฟฟูจิ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี Kawaguchiko Music Forest Museum (河口湖オルゴールの森美術館) ที่มีกล่องเพลงนานาชนิดมาจัดแสดง ไปจนถึงสวนสนุกสุดหวาดเสียวอย่าง Fuji Q Highland (富士急ハイランド) อีกด้วย

ชื่อ : คาวากุจิโกะ
ที่อยู่ : Fujikawaguchiko-machi, Minamitsuru-gun, Yamanashi
การเดินทาง เดินทางโดยรถไฟ: นั่งรถไฟด่วนพิเศษ JR Limited Express สาย Chuo ไปลงที่ “สถานี JR Otsuki” แล้วเปลี่ยนไปสาย Fujikyu นั่งต่อจนไปลงที่ “สถานี Kawaguchiko” ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เดินทางโดยรถบัส: จากสถานีรถบัส Shinjuku Expressway Bus Terminal (บริเวณทางออก South Exit) นั่งรถ Chuo Kosoku Bus ที่วิ่งบนเส้นทาง Fuji Five Lakes bus route ไปลงที่ Kawaguchiko/Fuji Q Highland

หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ คือ บ้านวาดะ (和田家住宅, Wada House) บ้านเก่าแก่อายุกว่า 300 ปีที่ได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพเดิม และถูกยกย่องให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันสำคัญของญี่ปุ่น ภายในตัวบ้านมีการเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ได้ศึกษาเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน และงานหัตถกรรมหม่อนไหม ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่คอยค้ำจุนหมู่บ้านแห่งนี้เรื่อยมา